วันเสาร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2560

เช็งเม้งกับโอบ้ง มันต่างกันยังไง!? (ฉบับย่อมากๆ)

สวัสดีครับ คราวก่อนๆนู้นที่บอกไว้ว่าจะมาเล่าเรื่องความแตกต่างระหว่างเช็งเม้งกับโอบ้งครับ พอดีอยากเขียนด้วย บวกกับงานที่เกือบจะหมดแล้ว??? เลยพอมีเวลาว่างเขียน

คิดว่าคนญี่ปุ่นหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ในไทยเนี่ย ชาวไทยเชื้อสายจีนเต็มบ้านเต็มเมืองเลยนะ ไม่เชื่อลองถามเพื่อนคนไทยดูสิ ผมเคยลองถามเพื่อนหลายๆคน เอาแค่ในเอกญี่ปุ่นก็หลายสิบคนแล้วครับ 555 บ้านผมก็เป็นหนึ่งในนั้นดังนั้นก็จะคุ้นเคยกับพวกพิธีกรรมของจีน เพราะที่บ้านทำมาตลอดครับ ส่วนของทางญี่ปุ่นผมไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งเพราะไม่เคยสัมผัส มีรู้ผ่านหนังและอนิเมะบ้าง แต่เห็นแค่ภาพรวมครับ ถ้าได้ไปญี่ปุ่นก็อยากลองไปเข้าร่วมพิธีต่างๆของทางนั้นดูครับ และถ้ามีเวลาว่างก็อยากศึกษาเพิ่มเติมดู

ข้อมูลที่นำมาใช้ไม่ค่อยลึกเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งเพราะผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพิธีโอบ้งมากนัก อย่างที่บอกไปว่าเคยเห็นผ่านๆจากในอนิเมะหรือหนังเท่านั้น และพิธีเช็งเม้งถ้าให้ลงลึกมันจะละเอียดมากๆจนผมว่ามันแอบน่าเบื่อไปหน่อย ทำแค่ผิวๆ เลยออกมาสั้นมากเลย ถ้ามีข้อมูลผิดพลาดตรงไหนก็ต้องขออภัยมา ที่นี้ด้วยครับ

ก่อนอื่นทั้งสองอย่างคืออะไร เช็งเม้งที่คนจีนแต้จิ๋วภาษาญี่ปุ่นเรียกแต้จิ๋วว่า潮州〉เรียกกันคือเทศกาลทำพิธีไหว้บรรพบุรุษ ถ้าเทียบกับ お盆 ของญี่ปุ่นก็คงเหมือนกัน เป็นเทศกาลทำความเคารพบรรพบุรุษที่จากไป ฟังดูแล้วเหมือนกันมาก แต่เนื้อหาภายใน พิธีกรรม อื่นๆนั้นต่างกันมากทีเดียวครับ

ก่อนอื่นก็เรื่องวันที่จัดพิธี เช็งเม้งมักจะตรงกับวันที่ 4 เมษายนของทุกปี (บางปีก็ 5 เมษายน) แต่จะมีระยะเวลาให้ไปทำพิธีได้ก่อนถึงวันนั้นประมาณ 15 วัน กล่าวคือ ประมาณวันที่ 20 - 21 มีนาคมก็เริ่มเดินทางไปทำพิธีกรรมที่สุสานของครอบครัวตัวเองได้แล้ว ขณะที่โอบ้งญี่ปุ่นจะตรงกับเดือนสิงหาคมตั้งแต่วันที่ 13 – 15 เป็นระยะเวลา 3 วัน (บางทีก็ถึงวันที่ 16 )
ในด้านจุดประสงค์ของพิธี แน่นอนว่าทั้งสองพิธีมีขึ้นเพื่อแสดงความกตัญญู ความเคารพต่อบรรพบุรุษ แต่ดูต่างไปนิดนึงคือ เช็งเม้งมีขึ้นเพื่อรวมญาติที่ห่างหายกันไปนานให้กลับมาเจอกัน เวลาไปเช็งเม้งทีก็จะเจอญาติที่ไม่คุ้นหน้าเยอะมากๆ ส่วนโอบ้งอีกจุดประสงค์นึงคือให้วิญญาณได้พักผ่อนก่อนกลับไปยังภพของตัวเอง


ด้านสถานที่ เช็งเม้งจะจัดที่สุสาน หรือ วัดที่มีสุสานครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ต่างจังหวัด สถานที่มักอยู่ติดหรือใกล้เขา โดยมีภูเขาอยู่ข้างหลังและมีแม่น้ำไหลผ่าน ตามความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยของชาวจีน มีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งไม่ดี ส่วนโอบ้งจะจัดพิธีแสดงความเคารพบรรพบุรุษที่บ้าน และมีงานเทศกาลที่วัด มีการรำไปรอบๆชั้นที่สร้างไว้สำหรับตีกลอง ค่อนข้างครื้นเครง สนุกสนานกว่าเช็งเม้งครับ



ของไหว้นั้นมีเหมือนกันทั้งคู่ เช็งเม้งใช้ค่อนข้างเยอะ ตามที่บรรพบุรุษทำกันมาต้องมีเนื้อสัตว์ ผลไม้ ขนมหวาน รวมกันเยอะมากๆ ชนิดที่ว่าเอาไปแจกคนได้ทั้งหมู่บ้านเลย ส่วนของทางโอบ้งนี่ผมไม่แน่ใจ แต่ถ้าคิดจากจุดที่ว่าจัดที่บ้านหน้าตู้บรรพบุรุษแล้วของไม่น่าจะเยอะเท่าเช็งเม้งครับ

ที่มา : http://modchang.namjai.cc/e163967.html

ด้านพิธีกรรม เช็งเม้งจะต้องเตรียมของไหว้ไปไหว้ตามธรรมเนียม ก่อนจะไหว้ที่สุสานครอบครัว ก็ต้องไปไหว้เจ้าที่ก่อน ของไหว้ต้องเตรียมแยกไปจากที่ใช้ไหว้บรรพบุรุษ ของไหว้จะน้อยกว่า นอกจากนี้จะมีการทำความสะอาดและตกแต่งสุสานให้สวยงามครับ ส่วนโอบ้งจะมีการจุดไฟที่เรียกว่า มุคะเอะบิ迎え火 เพื่อให้วิญญาณเดินทางไปกลับได้อย่างปลอดภัย ไม่หลงทาง พอทำพิธีต่างๆ หมดช่วงโอบ้งแล้วก็จะส่งวิญญาณกลับด้วย 迎え火 เหมือนเดิม สังเกตว่าเช็งเม้งจะเน้นไปทางการเซ่นไหว้ของเสียมากกว่า โอบ้งโดยรวมจะมีหลายขั้นตอนผสมๆกันครับ ไม่ได้เน้นไปที่การเซ่นไหว้
ภาพรวมเมื่อสรุปออกมา เช็งเม้งของทางจีนเป็นพิธีที่เน้นการเซ่นไหว้ ได้กลับมาเจอญาติครอบครัวที่ห่างไปนาน ขณะที่โอบ้งของทางญี่ปุ่นจะเน้นความสนุกสนานมากกว่าเพื่อให้วิญญาณได้ใช้ชีวิตในโลกนี้อย่างสนุกสนานก่อนกลับ และตัวพิธีกรรมค่อนข้างเป็นส่วนตัวกว่า

ศัพท์
供え物 (そなえもの)ของ(เซ่น)ไหว้
迎え火 (むかえび)การก่อกองไฟเพื่อรับ – ส่งวิญญาณ
精霊馬 (しょうりょううま) อันนี้ไม่ได้พูดถึงในบล็อกข้างบนครับ แต่น่าสนใจดีเลยเอามาครับ เป็นชื่อของแตงกวาหรือมะเขือม่วงที่เสียบตะเกียบเข้าไปเป็นขา เชื่อกันว่าเป็นพาหนะที่คนตายใช้เดินทางกลับมาโลกนี้ครับ

ที่มา : http://modchang.namjai.cc/e163967.html

 ก็จบกันไปแล้วกับการเปรียบเทียบเช็งเม้งกับโอบ้งฉบับย่อ(มาก)ๆ เป็นยังไงกันบ้างครับ ผมว่าน่าสนใจมากเลย โดยเฉพาะของทางญี่ปุ่นที่ออกไปทางงานรื่นเริง วันนี้ผมขอลาไปแค่นี้ครับ สวัสดีครับ (ปิดกล่อง)

ที่มา : https://media.giphy.com/media/xUA7aWzxzNwitkQGVa/giphy.gif


ที่มา

จิตรา ก่อนันทเกียรติ.  (2003). ความรู้เรื่องจีนจากผู้เฒ่า. กรุงเทพฯ. ดอกหญ้า.

จิตรา ก่อนันทเกียรติ.  (2003). ธรรมเนียมจีน มีเหมือน มีต่าง มีแปลก. กรุงเทพฯ. อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง

จำกัด มหาชน.

สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่นในพระบรมราชูปถัมภ์. (2012). お盆祭り (Obon Matsuri) เทศกาลโอบ้ง.

เข้าถึงได้จาก : http://www.ojsat.or.th/main/now-japan-how-about/634--

obon-matsuri-. 14/4/2560.

Namchan. (2015). เทศกาลโอบ้ง. เข้าถึงได้จาก http://modchang.namjai.cc/
e163967.html. 14/4/2560.

2 ความคิดเห็น:

  1. น่าสนใจดีค่ะ
    เราก็ไปเชงเม้งนะ ไปทุกปีแล้วพ่อก็ขับรถหลง (ในป่าช้า555) ทุกปี
    แดดร้อนมาก เคยคุยกันว่าทำไมเราไม่มาตอนเย็นๆ =_=" แต่ไม่เอาไม่เสี่ยง เดี๋ยวฟ้ามืด 555
    ส่วนใหญ่คนไทยจะไปเชงเม้งตอนเช้า?? ในเวลาเดียวกับที่เราไปจะมีรถเข้าเยอะมากๆ
    แต่ญี่ปุ่นเค้ามีพิธีตอนกลางคืนด้วยเนอะ

    ป.ล. เคยคุยกับเพื่อนคนจีน ดูเหมือนว่าแบบนี้จะไม่มีที่จีนแล้ว เพราะที่ไม่พอ และจะมีแต่คนรวยๆที่ทำได้ อันที่จริงเมื่อหลายปีก่อนนู่นนน ก็มีการล้างป่าช้าที่จีน แล้วก็ส่งสมบัติในโลงไปให้ลูกหลาน ปู่เราก็ได้มาอันนึง ปู่เล่าว่าตอนขุดขึ้นมาแล้วเจอของมีค่านี่ ต้องทำพิธีเสี่ยงทายด้วยว่าผู้ตายอยากให้ของนี้ไปอยู่กับลูกหลานสายไหน (อย่างที่รู้กันว่าคนจีนครอบครัวใหญ่มาก) พอได้เป็นชื่อปู่ ทางนู้นก็ส่งมาให้ที่ไทยเลย

    ตอบลบ
  2. ชาวไทยเชื้อสายจีนเต็มบ้านเต็มเมืองจริงๆ 55 นี่ก็เคยต้องไปเช็งเม้งเหมือนกัน ในซอยแถวบ้านเค้ามีสุสานที่คนจะมาไหว้กันทุกปี ช่วงนั้นรถก็จะติดมาก เต็มหน้าบ้านไปหมดเลยTT แต่ก็เป็นกิจกรรมที่ทำให้ทุกคนได้มาเจอกัน วันรวมญาติมากๆ

    ตอบลบ