วันพุธที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2560

11 เมษายน + 描写文

 สวัสดีครับ วันนี้กลับมาคุยเรื่องงานและการเรียนกันต่อ ก่อนอื่นขอพูดถึงสิ่งที่เรียนในห้องวันนี้ก่อนครับ
อาจารย์กลับมาให้ดูภาพรวมและดูคีย์เวิร์ดใหม่ครับ คือ 意味交渉 คือการตรวจสอบสิ่งที่พูดให้เข้าใจ เช่น การถามย้ำว่าใช่มั้ย หรือถามซ้ำอีกครั้ง
普編文法 คือไวยากรณ์ที่เป็นสากล กล่าวคือเป็นไวยากรณ์ที่มีร่วมกันในทุกภาษา เช่น มีประธานแล้วต้องมีกริยา เป็นต้นครับ
หลังจากนั้นพูดถึงวิธีการเรียนที่มีประสิทธิภาพครับ ได้แก่
TPA ที่เคยพูดถึงไปแล้วในเรื่องก่อนๆ
 Communicative Approach คือการตั้งเป้าหมายในการทำอย่างหนึ่งแล้วทำให้สำเร็จ เช่น บทบาทสมมติให้ฝั่งหนึ่งขอยืมเงินให้สำเร็จ และอีกฝั่งต้องปฏิเสธ
Audio-lingual คือการให้พูดตาม หรือพูดแล้วให้ลองเปลี่ยนเล็กน้อย เช่น 行くà行きます
 Focus on Form คือการเอาหลายอย่างมาผสมกัน เช่น เล่นบทบาทสมมติแล้วกลับมาดูว่าทำไปยังไงบ้าง
ที่เรียนในห้องก็มีเพียงแค่นี้ครับ ต่อไปเป็นงาน 描写文
 ตอนแรกที่อาจารย์ให้งานเขียนพรรณนามา สิ่งที่แรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคือ ความฝันที่เคยฝันจริงๆ ผมรู้สึกว่ามันตราตรึงใจมาก เป็นฝันที่ฝันก่อนวันไปสัมภาษณ์จริงๆด้วย555 เลยอยากเขียนเรื่องนี้ แล้วก็เติมเนื้อหาอื่นลงไปเพราะจำเรื่องราวไม่ค่อยได้มาก
 พอลองมาเขียนจริงแล้ว ยากมากครับ ยิ่งผมเป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือมากเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยเห็นประโยคพรรณนา ผมพยายามเอาประโยคที่เคยผ่านตาจากหนังสือเรียน ผ่านหูจากอนิเมะ หนังมาใช้ ส่วนประโยคที่รู้สึกมันยังไม่ค่อยได้ภาพที่ต้องการก็ใช้กูเกิ้ลหาคำความหมายเดียวกัน เช่น プレッシャーを押しつぶされるような感じ ตอนแรกผมใช้ プレッシャーを感じる。 แต่มันไม่ได้ภาพที่ความเครียดกด ดันเราให้จม เลยลองเอาคำที่คุ้นๆใส่ผสมเข้าไป ตอนแรกจำผิดก็เลยเอา 抑える ไปหา ผลคือไม่เจอ จนกระทั่งรู้สึกตัวว่ามันคนละความหมายกันเลย ผมเลยเปลี่ยนเป็น 押す แล้ว 押しつぶされる ก็เด้งขึ้นมา คิดว่าอันนี้แหละใช่เลย ก็เลยหยิบมาใช้ครับ
 จริงๆเขียน 2 รอบครับ (จะเรียกรอบ 2 ว่ารอบได้มั้ยนะ เพราะผมแก้แค่บางประโยคที่รู้สึกว่ามันยังไม่ดี) แต่รอบแรกผมลืมเซฟไว้ แล้วเอาอันใหม่เซฟทับไปเลยจำไม่ได้ว่าแก้ตรงไหนไป =w=
งานตัวล่าสุดผมเขียนเป็นประมาณนี้ครับ ออกจะยาวสักหน่อย

(アン)げられない(エスケーペブル)悪夢(ナイトメア)
平成のある年の恋の月、アラビアの有名な大学の男性の学生が勉強していた。仕事などがたくさん入ってきて、忙しくなったので、ストレスがたまってきていった。特に、留学の奨学金のことがやけに心配だった。去年もその奨学金を申し込んだが、落ちてしまったからだ。
もうすぐその奨学金を申し込む時期が近付いてきた。彼は資料を準備して、申し込む場所へ行って出した。そして、去年のことを思い出した。檻の中の囚人のような感覚、プレッシャーに押しつぶされるような感じ、これらを思い出すと、体がしびれ始めて鳥肌が立ってきた。
そして、筆記試験の日がやってきた。懐かしいような、思い出したくないような、あやふやな感じだった。そろそろ始まるので、会場に入って自分の席まで歩いていった。エアコンから寒風が肌に当たって、体を震わせてしまって、冷静にいられなかった。2時間経って、筆記試験が終わった。読み物が全く分からず、見たことのない語彙や文法も多く出て、去年のより難しかった。結果が一週間後インターネットに載せるそうなので、心配だらけの一週間が始まった。
一週間経って、その日が迎えた。彼が仕事をやってばかりいて、その試験のことをすっかり忘れてしまったが、大学を歩いているときに、結果が出たとほかの人の話が聞いた。それを聞いた彼ができるだけ早く携帯電話を取って、その結果を発表されたページを探していた。「あった!」彼がどきどきしてきて、合格者のリストのファイルまで入っていた。覚悟する時間が必要だと彼は思って、そのまま、道の真ん中でじっと立っていた。心の準備をした彼は人差し指を動かせ始めて、見慣れたものが目に入った。「J-044」という彼の登録番号を見つけた。彼は飛ぶほど嬉しかった。そのリストの一番下のところに面接試験の日が書いてあった。これから、一週間後だと。この先を知らない彼は今とても幸せだった。
面接試験日が近づいてきた。幸せだった彼は心配になってしまった。なぜなら、去年の面接試験で彼が落ちたからだ。その日の二日前、彼は普通の生活、大学に通って、仕事をした、を過ごしていた。そして、夜中に嫌な予感をさせることがあった。彼は真っ白な部屋に一人いる自分の姿が見えてきた。そして、ある声が聞こえた。「J044さん、どうぞ」と。彼がある部屋に行った。部屋の真ん中に長い机と黒い椅子があった。そして、中年の女性がその椅子に座っていた。「はい、どうぞ」。彼は机の前まで歩いていった。一方、彼女が何らかの資料を捲り始めた。そして、成績が載っている紙が見えた。「僕の成績だ」と頭の中で声を出した。彼女はざっと見て、口を開き始めた。「あんた、これぐらいできるの?これならだめだわ。消えなさい!」と言っていた。同時に、白い紙がとんでもない威力で舞い上がるのを見た。資料がばら撒かれて、彼の顔に当たって、屈辱を初めて味わったとたん、彼は目を覚めた。
とうとう面接試験の結果発表の日がやってきた。筆記試験の結果発表のときのように、同じことを繰り返したが、今回は道の真ん中ではなく、ちゃんと椅子に座っていた。彼が合格者のページまで入って、スクロールし始めた。そして、彼が驚いた。なぜなら、彼の名前は...。

 เนื้อหาโดยรวมผมว่าโอเคอยู่ แต่เรื่องการพรรณนา เท่าที่ลองอ่านซ้ำอีกรอบ ยังมีอีกหลายจุดที่ยังขาดๆ ยิ่งหลังจากได้ฟีดแบ็คจากอาจารย์แล้ว เห็นจุดบกพร่องในงานอยู่เยอะมาก
 てくる/ていく ยังมีปัญหาเหมือนเดิมหลังจากอาจารย์บอกว่าควรใช้เพื่อบรรยายให้เกิดภาพ (แน่นอนว่าสิ่งที่ยังไม่เข้าใจก็ต้องลองใช้ดู แต่ดูเหมือนจะผิดที่) ผมใช้ในส่วนที่ว่า ストレスがたまってきていった。 แต่ตรงนี้ได้ฟีดแบ็คกลับมาว่า ไม่ต้องใส่ ていく เพราะไม่มีการเคลื่อนไหว
 は、が อันนี้พึ่งเจอตอนอาจารย์บอกครับ ปกติใช้ไปเพราะรู้สึกว่ามันใช้ได้ แต่โดนแก้มา 「会った!」と彼がどきどきして、(中略) อาจารย์แก้เป็น 彼はどきどきして เหตุผลคือมันเป็นประโยคหลัก ประโยคสำคัญ พอใช้ แล้วมันดูเป็นประโยครอง ไม่สำคัญเท่าไหร่
 อีกส่วนที่น่าสนใจคือ 「会った!」と彼がどきどきして、(中略)ได้ประโยคอีกรูปแบบมาคือ 彼の胸の鼓動は高まり、 พอลองมาอ่านดูก็รู้สึกว่ามันเห็นภาพว่ามันดังก้องขึ้นมาทันที แต่เป็นประโยคแบบที่ไม่น่าจะนึกถึงแน่ๆ เพราะไม่เคยใช้ และผมไม่ได้เป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก เลยไม่ค่อยมีศัพท์ดีๆในหัวเท่าไหร่
 その日の二日前、彼は普通の生活、大学に通って、仕事をした、を過ごしていた。ตอนเขียนงานออกมาก็ไม่รู้สึกอะไร ตอนเช็คก่อนส่งก็ดูแบบผ่านๆจริง ด้วยความขี้เกียจ =w=พออาจารย์เขียนมาพึ่งสังเกตว่ามันกำกวมตรงที่วันนั้นมันคือวันไหนระหว่างปีที่แล้วกับปีนี้ เพราะที่เคยเรียนมา その จะชี้ถึงสิ่งที่อยู่ข้างหน้า อันที่อยู่ข้างหน้าก็ดันเป็นวันของปีนี้ แต่ประโยคนี้มันสื่อถึงปีก่อน เป็นประโยคที่รู้สึกว่าควรแก้อย่างมาก
 (中略)、夜中に嫌な予感をさせることがあった。 อันนี้อาจารย์ให้ฟีดแบ็คมาคือ 予感をおそわれたชอบตรงที่เป็นแบบที่ไม่เคยเห็น แล้วมันให้ภาพดีมาก おそう ถ้าเข้าใจถูกจะแปลว่าโจมตี พอเป็นแบบนั้นแล้ว ให้ภาพว่า 予感 มันพุ่งเข้าใส่ ชอบมากๆ
「あんた、これぐらい出来るの?これならだめだわ。(中略)」 ตรงนี้อาจารย์แก้ให้เป็น これぐらいしか出来ないの?これじゃだめだわ。 พอใส่ しか เข้าไปก็รู้สึกได้ถึงคำว่า แค่มากกว่า ぐらい สื่ออารมณ์ได้ดีขึ้นเยอะครับ なら นี่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะมันเป็นเงื่อนไขเกิน เหมือนมันต้องมีต่อว่า แบบนี้แล้วเป็นยังไง แล้ว なら ที่เคยเรียนมาก็มักใช้แนะนำซะมากกว่า (ทั้งๆที่รู้ยังใช้ผิดนะเนี่ย-.-)
พอได้มาเขียนงานที่ต้องใช้ภาษาสร้างจินตนาการแบบนี้แล้ว รู้สึกได้ถึงความยากของการสร้างงานเขียนเลย คนเขียนได้ต้องรู้ประโยค คำศัพท์เยอะมากๆ ถึงจะแต่งได้ดีมากๆ ส่วนใหญ่เพื่อนในห้องที่เขียนดีๆกันก็เป็นคนอ่านหนังสือเยอะซะด้วย ผมควรเริ่มอ่านหนังสือมั้งดีมั้ย5555

วันนี้ก็ขอจบเรื่องเกี่ยวกับการพรรณนาเพียงแค่นี้ครับ เป็นกิจกรรมที่รู้สึกว่าได้ปรับภาษาตัวเองให้ดีขึ้น(นิดนึง) หลังจากนี้ก็จะพยายามต่อไปครับ ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

2 ความคิดเห็น:

  1. เป็นความฝันที่น่ากลัวมาก รู้สึกหลอนแทน ฮือ 555
    รู้สึกเหมือนอาจารย์ตรง は・が อ่านแล้วรู้สึกว่าหลายที่ที่ใช้ が มาเขียนด้วย は จะดีกว่า
    วลีหลาย ๆ ที่เขียนแล้วเห็นภาพชัดดี ชอบ ๆ
    จบได้แบบลุ้นอยากรู้ผลมาก 55555

    ไวยากรณ์สากลคันจิผิดตัวเน้อ → 普遍文法 อันนี้ ๆ
    แล้วก็ถ้าปกติไม่ค่อยอ่านหนังสือ ลองเริ่มที่อ่านฟิคก่อนก็ได้นะ ใน pixiv งี้ หาเรื่องที่ชอบ จะได้มีแรงใจอ่าน 5555 เราก็อ่านจากฟิคทั้งนั้น นิยายเพิ่งมาเริ่มอ่านไม่นาน 5555
    สู้ ๆ เน้อ ><b

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พึ่งเห็นว่าผิด ขอบคุณครับ -/\-
      เดี๋ยวผมลองอ่านดูครับ รอพ้นช่วงสอบไปก่อน เห็นคนอื่นอ่านแล้ว รู้สึกอยากเปลี่ยนตัวเองให้อ่านหนังสือเยอะๆมั้ง

      ลบ