สวัสดีครับ
วันนี้กลับมาต่อจากคราวที่แล้วเรื่อง Intake
คราวนี้เข้าสู่ส่วนของ
Integrating (統合) ความหมายที่เราคุ้นกันก็คือ “บูรณาการ” ครับ ในที่นี้น่าจะหมายถึง “รวมกัน” คาดว่าน่าจะเอาทุกอย่างในขั้นตอนก่อนหน้าทั้ง
Noticing และ Comparing มารวมกัน
ของ Integrating ก็แบ่งออกเป็น 3 คีย์เวิร์ดใหญ่ๆครับ คือ
仮説検証 (Hypothesis Testing) คือเราคิดว่าถูกและสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องโดยไม่ต้องเช็ค
เช่น การใช้คำช่วยกับคำกริยาที่มีการเคลื่อนที่เข้าไปต้องใช้
に เป็นต้น
再構築 (Restructuring) คือ
การพยายามสร้างความรู้ ทฤษฎีใหม่จากการรู้ว่าสิ่งเก่านั้นผิด เช่น
ผู้เริ่มเรียนเข้าใจผิดว่า です คือ ครับ/ค่ะในภาษาไทย
แต่ในความเป็นจริงความหมายเหมือนกัน Verb to be ในภาษาอังกฤษ เป็นต้น
自動化 (automatization) คือการใช้งานสิ่งนั้นได้โดยไม่ต้องเตรียม
ไม่ต้องคิดล่วงหน้า สามารถทำได้ทันที เช่น พูดคำว่าต้องด้วย なければならない ในหมู่คนเรียนภาษาญี่ปุ่นที่เรียนขั้นสูงแล้ว
ต่อมาอาจารย์ก็ยกเรื่อง 談話展開 ขึ้นมา แล้วถามว่า 談話 คืออะไร ทุกคนในเอกญี่ปุ่นที่นี่น่าจะคุ้นหูกันทุกคนกับคำๆนี้
ผมก็จำได้ว่าเคยเรียนแต่ผมนึกไม่ออกว่ามันคืออะไร จนกระทั่งทุกคนในห้องเริ่มค่อยๆระลึกได้ว่ามันคืออะไร
พอมีคนพูดถึงบทบรรยายลักษณะของตัวละครในแฮรี่ พอตเตอร์ ผมก็นึกได้รางๆว่ามันคือ “ใจความ” ในตอนนั้นที่อ่านเรื่องแฮรี่ มีบรรยายตัวเอก แฮรี่ พอตเตอร์ รอน วิสลีย์
เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ และตัวละครอื่นๆ ซึ่งบทบรรยายลักษณะตัวละครแต่ละตัวจะนับเป็น
1 談話 แต่ในห้องไม่ได้ตอบไปว่าคืออะไร
เพราะนึกออกแค่รางๆเลยไม่มั่นใจว่าถูกมั้ย ก็ยังงงอยู่อย่างนั้น
เลยลองค้นหาดูใน Weblio dictionary ครับ เขาเขียนไว้ตามนี้
だん わ [0] 【談話】
ลองสังเกตข้อความที่ผมไฮไลท์สีเหลืองนะครับ
ได้ความว่า หน่วยทางภาษาที่ใหญ่กว่าประโยค เป็นการรวมกันของประโยคหลายๆประโยค
ไม่รู้ผมแปลถูกหรือเปล่า
ถ้าผิดก็ต้องขออภัยครับ แต่ถ้าเป็นตามที่ผมเข้าใจ พูดง่ายๆก็คือ “ใจความ” นั่นแหละครับ ในหนึ่ง 談話 ต้องเป็นเรื่องเพียงเรื่องเดียว ไม่มีพูด
เขียนนอกเหนือจากเรื่องๆนั้น ถ้ามีส่วนไหนไม่ใช่จะนับเป็นอีก 談話 ครับ
กลับมาที่ 談話展開 การนำพาเรื่อง
อาจารย์พูดถึงการเล่าเรื่องให้มีความเป็นญี่ปุ่นมากขึ้น โดยให้ดู 2 ประโยคครับ คือ
親は怒った。そして、子供をしかった。
怒った親は子供をしかった。
แล้วก็ให้ทายว่าอันไหนคือแบบที่คนญี่ปุ่นนิยมใช้ครับ
อันที่คนญี่ปุ่นใช้กันมากคืออันล่างครับ ส่วนผมใช้อันบนเพราะมันง่าย ไม่ซับซ้อน
แล้อาจารย์ก็ให้ดูตัวอย่างเพิ่มเติม
สรุปได้ว่า คนญี่ปุ่นนิยมเล่าเรื่องแบบใช้คำขยายหน้าคำนาม และใช้ こ・そ・あ มาช่วยในการขยายบ่อย
ขณะที่คนต่างชาตินิยมใช้ そして
มาช่วยเชื่อมประโยคแบบง่ายๆเช่นตัวอย่างบน
สิ่งที่เรียนไปวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ครับ
และที่ผมสัญญาไว้ในครั้งที่แล้วว่าจะเอางานบรรยายมาให้ทุกคนดู อยู่ข้างล่างนี้ครับ
เชิญชมได้ครับ แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
真夏のある日の真夜中、一人で道を歩いていたら、向こうから何かが出ているような黒い影が見えました。近寄って見ると、血の匂いが漂って、黒い影から「死んでしまえ」という声が聞こえて、足下まで血がゆっくり流れてきました。お化けだと思って、お化けがいない方向に逃げていきました。振り向くと、黒い影がさっきより20-30人ぐらい増えて、追いかけてきました。次々に数が多くなって、ヤバイと思いました。10分ぐらい走ってきて、古い家を見つけました。そこで休みながら身を隠そうと思って、こっそり入りました。ドアを開けたとたん、黒い糸のようなものが動いているところを見て、床に転ぶくらいびっくりして、全力で逃げていきました。そこもお化けの家だと分かりました。20分ぐらい走って、野原まで行ってきてしまいました。そこの中心に友達が5人見えました。一人はお化けを野原の中心まで誘導して、四人は野原のそれぞれの角から火を起こして、お化けを焼き尽くすつもりでした。どうやらお化けをやっつけてくれたようです。
ที่ผมทำตัวแดงเอาไว้คือรู้สึกว่าควรจะอธิบายเพิ่มอีก
ตอนผมเขียนผมไม่ได้คิดอะไร แต่พอลองมาอ่านเองแล้ว
รู้สึกว่าควรเพิ่มรายละเอียดอย่างตรง お化けだと思って น่าจะบอกเหตุผลว่าทำไมถึงคิดว่าเป็นผี
方向 น่าจะบอกทิศทางก่อนว่า
ทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตกด้วย น่าจะช่วยให้เห็นภาพมากขึ้น
さっきより20-30人ぐらい増えて ถ้าดูตามหลักความจริงแบบพวกหนังผี
ส่วนใหญ่ก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงเพิ่ม
แต่ถ้าเป็นการบรรยายคิดว่าควรเพิ่มเหตุผลที่เพิ่มจำนวนลงไปด้วย
古い家 บ้านเก่าก็พอเข้าใจว่าเก่า
แต่น่าจะเพิ่มรายละเอียดให้มากกว่านี้ เช่น 木造の古い家 เป็นต้น
動いている ขยับยังไง
เช่น แกว่งไปมา ค่อยๆเลื้อยออกมา
そこもお化けの家だと分かりました เพิ่มรายละเอียดที่ดูเป็นบ้านผีให้มากขึ้น
เพราะแค่มีเส้นดำๆขยับได้อาจจะแค่หยากไย่ที่โดนลมก็ได้
友達が5人見えました เพื่อน 5 คนที่มาจากไหนก็ไม่รู้
ทีแรกรู้สึกว่าโอเคแล้ว
แต่พอเห็นของณัฐธิดาที่เล่าแบบเห็นตัวละครเพื่อนตั้งแต่ต้นแล้ว
รู้สึกว่าควรจะบอกที่มาที่ไปของ 5 คนนี้สักหน่อย
อันนี้คือที่ผมคิดว่าควรแก้ไขครับ
แล้วก็อาจารย์คอมเม้นต์เพิ่มว่าตรงช่วงท้ายถ้าอธิบายละเอียดกว่านี้หน่อยน่าจะดี
พอผมกลับมาอ่านของตัวเองอีกรอบ ผมก็คิดว่าควรเพิ่มครับ มันสั้นมากจริงๆ
จะว่าเห็นภาพก็เห็นนะครับ แต่เห็นแค่ภาพรวม ไม่ได้เห็นถึงรายละเอียดเท่าที่ควร
ข้อเสียที่ผมคิดว่าควรปรับแก้
ผมก็ลองใส่ลงไปในงานชิ้นใหม่ซึ่งรอตรวจอยู่ครับ ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง
แต่รู้สึกว่าตัวไหนดีกว่าตัวนี้เยอะเลยครับ ไว้ครั้งหน้าจะเอามาให้อ่านกันนะครับ
สำหรับวันนี้ผมขอจบเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ ไว้ผมกันใหม่


