วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

21 มีนาคม 2560

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะกลับมาเล่าย้อนหลังถึงวิชาเรียน APP JP LING ต่อ เนื่องจากช่วงนี้งานยุ่งมากครับ ทั้งงานในและนอกมหาลัย

ก่อนอื่นก็เรียนเนื้อหาในห้องตามปกติครับ เนื้อหายังอยู่ในเรื่อง Intake เช่นเดิม

คราวนี้มีคีย์เวิร์ดใหม่ 4 คำครับ คือ

Implicit Knowledge (暗示的知識)
 ความรู้ที่รู้ ตระหนักได้ด้วยตัวเอง มักจะเป็นผลจากการอธิบายแบบยกตัวอย่าง ยกสถานการณ์แล้วผู้เรียนสามารถเข้าใจได้เอง

Explicit Knowledge (明示的知識)
การอธิบายบอกความหมาย วิธีการใช้งานตรงๆไปเลย เช่น คำอธิบายไวยากรณ์ตามหนังสือเรียน

ต่อมาก็พูดถึง IL System หรือ Interlanguage (中間言語) IL นี้คือภาษาที่เกิดขึ้นในผู้เรียนภาษาอื่นเป็นภาษาที่สอง เช่น ตัวเองเป็นคนไทย ไปเรียนภาษาญี่ปุ่น ภาษาที่เกิดขึ้นระหว่างเรียนนั้นก็คือ IL ซึ่งตัวภาษาดังกล่าว พูดแบบชาวบ้านหน่อยก็คงเป็น ภาษาต่างด้าวคือเราพยายามพูดภาษานั้น แต่ยังไม่ได้ใช้ได้อย่างคนที่เป็นเจ้าของภาษา ยังมีใช้ผิดหรือใช้แล้วแปลกๆ ถ้าเขียนให้ดูง่ายขึ้นก็จะเป็นตามนี้

ภาษาแม่ à IL à ภาษาที่สอง

ในการทำให้ความรู้แบบ  Implicit และ Explicit มีประสิทธิภาพ และใช้ภาษาได้ใกล้เคียงภาษาที่สองมากที่สุด จำเป็นต้องมีการทบทวน ทำซ้ำ ซึ่งเป็นคีย์เวิร์ดสุดท้ายของวันนี้คือ Rehearsal หรือง่ายๆก็  Repetition ครับ การทำซ้ำๆหลายๆรอบจะทำให้เกิดความเคยชินจนสุดท้ายจะกลายเป็นทักษะติดตัวเราไป มักเกิดขึ้นง่ายมากกับการเรียนภาษาในผู้เริ่มต้นครับ เช่น ที่อาจารย์ยกมา なければならない ตอนเริ่มเรียนผู้เรียนจะรู้สึกว่ามันยาวมาก แต่พอเรียนไปเรื่อยๆก็จะจำได้ พูดได้ปร๋อขึ้นมาทันที (เจอกับตัวเองครับ คนเรียนญี่ปุ่นใหม่ไม่ต้องกลัวว่ามันยากครับ เดี๋ยวก็ชิน555)

ใน Rehearsal นี้ก็แยกย่อยอีกเป็น 2 วิธีการคือ

Elaborative Rehearsal (精緻化リハーサ)
คือการทำซ้ำโดยให้สร้างความเชื่อมโยงระหว่างแต่ละสิ่งที่เรียนไป หรือเพิ่มข้อมูล วิธีการนี้ทำให้ความรู้แบบ Explicit ดีขึ้น เพราะเราแค่ฟังคำอธิบายมา ถ้าย้อนไปในคราวก่อนๆ เราแค่ 学習 เฉยๆ ยังไม่ได้ 習得 ความรู้เหล่านั้นมา การเอาความรู้ที่ได้มาสร้างความเชื่อมโยง ช่วยสร้างความเข้าใจให้มากขึ้น ทำให้เราใช้ได้ตามที่ตัวเองเข้าใจ ไม่ได้ใช้ตามคำอธิบายนั้น

Maintenance Rehearsal (維持リハーサ)
คือการให้ทำซ้ำโดยฝึกออกเสียงหรือท่องบ่อยๆ มีผลดีกับความรู้แบบ Implicit เพราะเราเข้าใจอยู่แล้ว ดังนั้นการฝึกใช้บ่อยๆจึงช่วยทำให้จำได้ดีขึ้น

เนื้อหาที่เรียนไปทั้งหมดในวันนั้นมีประมาณนี้ครับ หลังจากนั้นก็เข้าสู่กิจกรรมที่สนุกสนานของทุกคนXD


วันนี้อาจารย์แจกกระดาษที่มีเรื่องของเด็กคนนึงเล่าเรื่องผีแต่ไม่มีพลังในการบรรยายเลย จึงอยากให้เราช่วยแต่งเรื่องให้ดีขึ้น ตอนผมเขียนหัวผมไม่แล่นเลยแม้แต่นิด เลยเขียนเรื่องได้สั้นมากๆ ไว้เล่าเรื่องกิจกรรมครั้งหน้าผมจะเอาที่ผมเขียนมาให้ทุกคนดูครับ อนนี้ขอให้รอไปก่อน แต่อาจจะไม่คุ้มค่าที่รอก็ได้นะครับ TT
สำหรับวันนี้อาจจะสั้นกว่าปกติไปเยอะ ต้องขอโทษจริงๆครับ เนื่องด้วยงานที่กองเท่าภูเขาและมีทีท่าจะเข้ามาเรื่อยๆจนจะโดนทับตายอยู่แล้ว วันนี้ขอลาไปเพียงแค่นี้ครับ ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าครับ สวัสดีครับ

1 ความคิดเห็น:

  1. むずかしい勉強をしているんですね。でも、自分の勉強している言語を振り返ったり、仕組みを知ったりできる意味ではおもしろそうですね。
    ところで、「中間言語」“เราพยายามพูดภาษานั้น แต่ยังไม่ได้ใช้ได้อย่างคนที่เป็นเจ้าของภาษา ยังมีใช้ผิดหรือใช้แล้วแปลกๆ”のように書いてましたよね。初めてこのことばを知ったとき、少し悲しくなりました。でも今はいいことばだなと思います。だって中間なんですよ!勉強してことばが使えるようになったらなっただけ、その時々の倍、自分の能力には余裕があるんだって。「中間言語」の「中間」はそういう意味ではないのでしょうが・・・。

    ตอบลบ