สวัสดีครับ
วันนี้ผมจะกลับมาเล่าย้อนหลังถึงวิชาเรียน APP JP LING ต่อ
เนื่องจากช่วงนี้งานยุ่งมากครับ ทั้งงานในและนอกมหาลัย
ก่อนอื่นก็เรียนเนื้อหาในห้องตามปกติครับ
เนื้อหายังอยู่ในเรื่อง Intake เช่นเดิม
คราวนี้มีคีย์เวิร์ดใหม่
4 คำครับ คือ
Implicit Knowledge (暗示的知識)
ความรู้ที่รู้ ตระหนักได้ด้วยตัวเอง
มักจะเป็นผลจากการอธิบายแบบยกตัวอย่าง ยกสถานการณ์แล้วผู้เรียนสามารถเข้าใจได้เอง
Explicit Knowledge (明示的知識)
การอธิบายบอกความหมาย
วิธีการใช้งานตรงๆไปเลย เช่น คำอธิบายไวยากรณ์ตามหนังสือเรียน
ต่อมาก็พูดถึง
IL System หรือ Interlanguage (中間言語) IL นี้คือภาษาที่เกิดขึ้นในผู้เรียนภาษาอื่นเป็นภาษาที่สอง เช่น
ตัวเองเป็นคนไทย ไปเรียนภาษาญี่ปุ่น ภาษาที่เกิดขึ้นระหว่างเรียนนั้นก็คือ IL ซึ่งตัวภาษาดังกล่าว พูดแบบชาวบ้านหน่อยก็คงเป็น “ภาษาต่างด้าว” คือเราพยายามพูดภาษานั้น
แต่ยังไม่ได้ใช้ได้อย่างคนที่เป็นเจ้าของภาษา ยังมีใช้ผิดหรือใช้แล้วแปลกๆ ถ้าเขียนให้ดูง่ายขึ้นก็จะเป็นตามนี้
ภาษาแม่ à IL à ภาษาที่สอง
ในการทำให้ความรู้แบบ
Implicit และ Explicit มีประสิทธิภาพ
และใช้ภาษาได้ใกล้เคียงภาษาที่สองมากที่สุด จำเป็นต้องมีการทบทวน ทำซ้ำ
ซึ่งเป็นคีย์เวิร์ดสุดท้ายของวันนี้คือ Rehearsal หรือง่ายๆก็
Repetition ครับ การทำซ้ำๆหลายๆรอบจะทำให้เกิดความเคยชินจนสุดท้ายจะกลายเป็นทักษะติดตัวเราไป
มักเกิดขึ้นง่ายมากกับการเรียนภาษาในผู้เริ่มต้นครับ เช่น ที่อาจารย์ยกมา なければならない ตอนเริ่มเรียนผู้เรียนจะรู้สึกว่ามันยาวมาก
แต่พอเรียนไปเรื่อยๆก็จะจำได้ พูดได้ปร๋อขึ้นมาทันที (เจอกับตัวเองครับ
คนเรียนญี่ปุ่นใหม่ไม่ต้องกลัวว่ามันยากครับ เดี๋ยวก็ชิน555)
ใน Rehearsal นี้ก็แยกย่อยอีกเป็น 2 วิธีการคือ
Elaborative Rehearsal (精緻化リハーサル)
คือการทำซ้ำโดยให้สร้างความเชื่อมโยงระหว่างแต่ละสิ่งที่เรียนไป
หรือเพิ่มข้อมูล วิธีการนี้ทำให้ความรู้แบบ Explicit ดีขึ้น
เพราะเราแค่ฟังคำอธิบายมา ถ้าย้อนไปในคราวก่อนๆ เราแค่ 学習 เฉยๆ ยังไม่ได้ 習得 ความรู้เหล่านั้นมา การเอาความรู้ที่ได้มาสร้างความเชื่อมโยง
ช่วยสร้างความเข้าใจให้มากขึ้น ทำให้เราใช้ได้ตามที่ตัวเองเข้าใจ
ไม่ได้ใช้ตามคำอธิบายนั้น
Maintenance Rehearsal (維持リハーサル)
คือการให้ทำซ้ำโดยฝึกออกเสียงหรือท่องบ่อยๆ
มีผลดีกับความรู้แบบ Implicit เพราะเราเข้าใจอยู่แล้ว
ดังนั้นการฝึกใช้บ่อยๆจึงช่วยทำให้จำได้ดีขึ้น
เนื้อหาที่เรียนไปทั้งหมดในวันนั้นมีประมาณนี้ครับ
หลังจากนั้นก็เข้าสู่กิจกรรมที่สนุกสนานของทุกคนXD
วันนี้อาจารย์แจกกระดาษที่มีเรื่องของเด็กคนนึงเล่าเรื่องผีแต่ไม่มีพลังในการบรรยายเลย
จึงอยากให้เราช่วยแต่งเรื่องให้ดีขึ้น ตอนผมเขียนหัวผมไม่แล่นเลยแม้แต่นิด
เลยเขียนเรื่องได้สั้นมากๆ
ไว้เล่าเรื่องกิจกรรมครั้งหน้าผมจะเอาที่ผมเขียนมาให้ทุกคนดูครับ อนนี้ขอให้รอไปก่อน แต่อาจจะไม่คุ้มค่าที่รอก็ได้นะครับ TT
สำหรับวันนี้อาจจะสั้นกว่าปกติไปเยอะ ต้องขอโทษจริงๆครับ เนื่องด้วยงานที่กองเท่าภูเขาและมีทีท่าจะเข้ามาเรื่อยๆจนจะโดนทับตายอยู่แล้ว วันนี้ขอลาไปเพียงแค่นี้ครับ ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าครับ สวัสดีครับ
むずかしい勉強をしているんですね。でも、自分の勉強している言語を振り返ったり、仕組みを知ったりできる意味ではおもしろそうですね。
ตอบลบところで、「中間言語」“เราพยายามพูดภาษานั้น แต่ยังไม่ได้ใช้ได้อย่างคนที่เป็นเจ้าของภาษา ยังมีใช้ผิดหรือใช้แล้วแปลกๆ”のように書いてましたよね。初めてこのことばを知ったとき、少し悲しくなりました。でも今はいいことばだなと思います。だって中間なんですよ!勉強してことばが使えるようになったらなっただけ、その時々の倍、自分の能力には余裕があるんだって。「中間言語」の「中間」はそういう意味ではないのでしょうが・・・。